วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

หลากหลายภูมิปัญญาไทย

อุเครื่องดื่มภูมิปัญญาไทย



ของเล่นจากเปลือกทุเรียน

ลำโพงเครื่องดนตรีไทย





กล่องข้าวและกระติบข้าว




กี่ทอผ้า



กังหันพลังลม

เครื่องสีฟัดข้าวเปลือก









































วันอังคารที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

พระราชกรณียกิจของในหลวง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรชาวไทยเสมอมา ทรงเริ่มเสด็จเยี่ยมเยียน และพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎร ตั้งแต่ พ.ศ. 2495 เริ่มจากราษฎรที่อยู่ใกล้เคียงกับพระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และค่อยๆ ขยายพื้นที่ไปทั่วทุกภาคของประเทศ จนอาจกล่าวได้ว่า ไม่มีพื้นที่แห่งใดเลยในประเทศไทย ที่พระองค์ไม่เคยเสด็จพระราชดำเนินไปถึง ซึ่งพสกนิกรชาวไทยในทุกหนแห่งก็ถวายความ จงรักภักดี แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างล้นเหลือเช่นกัน และจากการเสด็จออกเยี่ยมราษฎรด้วยพระองค์เอง ทำให้ทรงทราบปัญหาในเรื่องความเป็นอยู่ และการประกอบอาชีพของราษฎร ซึ่งเป็นปัญหาในหลายๆ ด้าน เช่น ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำและชลประทาน ด้านการพัฒนาที่ดิน ด้านเกษตรกรรม ด้านการศึกษาวิจัย ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ด้านอาชีพเสริม และอื่นๆ เหล่านี้คือที่มาของโครงการอันเนื่อง มาจากพระราชดำริี่ัปััจจุบันมีมากกว่า 1,000 โครงการ
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

1. โครงการตามพระราชประสงค์ เป็นโครงการที่ทรง ศึกษา ค้นคว้า วิจัยและทดลองปฏิบัติเป็นการส่วนพระองค์ โดยใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อแสวงหาแนวทางและวิธีปฏิบัติที่ดี เมื่อโครงการนั้น ได้ผลดีมีประโยชน์แก่ราษฎรอย่างแท้จริงแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รัฐบาลเข้ามารับช่วงงานต่อไป

กังหันน้ำชัยพัฒนาใช้บำบัดน้ำเสีย

2. โครงการหลวง เป็นโครงการที่ทรงเลือกดำเนินการเพื่ออนุรักษ์ และฟื้นฟูพื้นที่บนดอยต่างๆ ในเขตภาคเหนือที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ให้ชาวเขาหันมาปลูกพืชเศรษฐกิจทั้งไม้ดอก และไม้ผล จนมีอาชีพที่มั่นคง ลดการตัดไม้ทำลายป่าได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งความสำเร็จที่เกิดขึ้น ทำให้โครงการหลวง ได้รับรางวัลแมกไซไซ ในฐานะองค์กรดีเด่น สาขาส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศ ประจำปี 2531
3. โครงการในพระบรมราชานุเคราะห์ เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแนวพระราชดำริ และคำแนะนำให้เอกชนไปดำเนินการและรับผิดชอบด้านกำลังทรัพย์ กำลังปัญญา และบุคลากร ตลอดจน ติดตามผลงานด้วยตนเอง เช่น โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน
4. โครงการตามพระราชดำริ เป็นโครงการที่ทรงวางแผนพัฒนา และให้รัฐบาลร่วมดำเนินการ โดยครอบคลุมการพัฒนาในหลายสาขา คือ
ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำและชลประทาน ทรงพบว่า พื้นที่เกษตร-กรรมหลายแห่งขาดแคลนน้ำ ที่จะใช้เพาะปลูกและอุปโภค ในขณะที่บางแห่งกลับมีน้ำท่วม พืชผลได้รับความเสียหาย จึงทรงจัดหา แหล่งน้ำและการชลประทานให้แก่ราษฎรแบ่งเป็น โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกและอุปโภคบริโภค โครงการพัฒนาแหล่งนี้เพื่อการรักษา ต้นน้ำลำธาร โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการผลิตไฟฟ้าในชนบทที่ห่างไกล โครงการระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มเพื่อประโยชน์ในการพาะปลูก และโครงการบรรเทาอุทกภัย

โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร


ด้านการปฏิรูปและพัฒนาที่ดิน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพัฒนาที่ดินที่รกร้างว่างเปล่า ให้อุดมสมบูรณ์ แล้วจัดสรรให้เกษตรกรในรูปสหกรณ์ นอกจากนั้นมีการปลูกหญ้าแฝก เพื่อแก้ปัญหาการชะล้างพังทลายของหน้าดินด้านเกษตรกรรม มีหลายโครงการ ได้แก่ โครงการหลวงพัฒนาภาคเหนือ โครงการฝนหลวง โครงการธนาคารข้าว โครงการธนาคารโค กระบือ โครงการส่งเสริมอาชีพพิเศษในยามที่ เกษตรกรว่างจากการทำไร่ทำนา และโครงการสหกรณ์

โครงการฝนหลวง

ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทรงจัดตั้งโครงการหน่วยแพทย์พระราชทาน เช่น แพทย์หลวงเคลื่อนที่พระราชทาน โครงการแพทย์พิเศษพระราชประสงค์ และหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่พระราชทาน ด้านการศึกษา พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนก่อสร้างโรงเรียน และทรงก่อตั้งกองทุนนวฤกษ์ เพื่อสนับสนุนเด็กที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์แก่นักเรียนทุกระดับ รวมทั้งโปรดเกล้าฯ จัดตั้งมูลนิธิอานันทมหิดล เพื่อส่งไปศึกษาเพิ่มเติมยังต่างประเทศด้วย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจทั้งปวงด้วยพระราชหฤทัยห่วงใยถึงทุกสุขของประชาชน และก่อเกิดความจงรักภักดีที่พสกนิกรทุกหมู่เหล่าตระหนัก ในความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชนจนยากจะลบเลือน

ที่มา : เว็บไซต์ โดย สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรีที่ตั้ง : สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 ถ.แจ้งสนิท ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี 34000โทร 0-4531-2116-8 ต่อ 109 โทรสาร 0-4528-1881E-Mail : prd2ubon@hotmail.com































วันอาทิตย์ที่ ๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

หนังสือเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่น่าสนใจ






รายการเอกสารที่แนะนำ

วิชา อายุรศาสตร์เบื้องต้น
ระดับชั้น ปวส. จำนวน 210 หน้า
โดย น.สพ.พิเชษฐ ประจงทัศน์
ตำแหน่ง ครู ค.ศ. 3
มือถือ 081 – 7056238

ราคาเล่มละ 100 บาท
ค่าจัดส่งเล่มละ 20 บาท

วิชา กายวิภาคและสรีรวิทยาของสัตว์เลี้ยง
ระดับชั้น ปวส. จำนวน 261 หน้า
โดย น.สพ.สุวิทย์ จันละคร
ตำแหน่ง ครู ค.ศ. 1
มือถือ 081 - 7035251

ราคาเล่มละ 220 บาท
ค่าจัดส่งเล่มละ 20 บาท

วิชา การผลิตโคเนื้อและกระบือ
ระดับชั้น ปวส. จำนวน 204 หน้า
โดย นายสินธุ์ มังคลาด
ตำแหน่ง ครู ค.ศ. 3
มือถือ 081 – 1944147

ราคาเล่มละ 100 บาท
ค่าจัดส่งเล่มละ 20 บาท

วันพุธที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

วิวสวยงาม











วัดหลวงเมืองเวียงจันท์ ประเทศลาว





วัดหลวงพ่อโต จ.นครราชสีมา












ภูหินร่องกล้า จ.เพชรบูรณ์







ทะเลหมอกบนยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่





ยอดดอยอินทนนท์ จ. เชียงใหม่









น้ำตกแม่ยะ จ.เชียงใหม่










งานพืชสวนโลก จ.เชียงใหม่







เต้นท์สวยบริเวณถ้ำปลา เมืองแม่ฮ่องสอน









เมืองแม่ฮ่องสอน





ทางหลวงระหว่าง
ประเทศลาว-เวียดนาม














เกาะไก่ อ่าวฮาลอง เวียดนาม

การผลิตเมล็ดพันธุ์หญ้ารูซี่

ขั้นตอนการผลิตเมล็ดพันธุ์หญ้ารูซี่
การเตรียมเมล็ดพันธุ์
ไม่ควรใช้เมล็ดค้างปี เมล็ดพันธุ์หญ้าไม่ต้องขัดถูหรือลวกน้ำร้อน
การปลูก
ปลูกด้วยเมล็ด ใช้เมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม / ไร่ โดยวิธีหยอดหลุม หลุมละ 3 - 5 เมล็ด ระยะระหว่างหลุม 25 - 40 เซนติเมตร หรือปลูกด้วยหน่อพันธุ์หรือต้นกล้า โดยเพาะกล้าทิ้งไว้ในช่วงต้นฤดูฝน เมื่อต้นกล้าอายุประมาณ 1 เดือน จึงนำมาปักดำ โดยใช้ระยะ 25 - 40 เซนติเมตร
การใส่ปุ๋ย
ใช้ปุ๋ยสูตร 15 - 15 - 15 จำนวน 25 กิโลกรัมต่อไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้ง ครั้งแรกพร้อมการเตรียมดิน อีกครั้งใส่หลังจากกำจัดวัชพืช
การกำจัดวัชพืช
ควรกำจัดวัชพืชหลังปลูก 1 เดือน โดยการใช้จอบถาก
การเก็บเกี่ยวและทำความสะอาด


มัดช่อดอกด้วยตอกรวมกันเป็นกลุ่ม ๆ เมื่อหญ้าเริ่มแทงดอกในเดือนตุลาคม หมั่นสังเกตว่าเมล็ดเริ่มแก่หรือยังโดยใช้มือรูดช่อดอก ถ้าเมล็ดที่หลุดออกมามีลักษณะแข็งให้เริ่มเคาะเมล็ดได้ โดยใช้สวิงที่ทำจากผ้ามุ้งไนล่อนรองใต้ช่อดอกแล้วเคาะเมล็ด ให้เคาะวันเว้นวัน ประมาณ 2 สัปดาห์
นำเมล็ดที่ได้ผึ่งในที่ร่ม 2 วัน แล้วผึ่งแดด 2 - 3 แดด พร้อมทั้งเก็บเศษใบและสิ่งเจือปนอื่น ๆ ออกด้วย

เมื่อเมล็ดแห้งสนิดนำไปฝัดด้วยกระด้งหรือพัดลม เป่าเมล็ดที่ลีบออก เสร็จแล้วบรรจุกระสอบเก็บในที่ร่ม



ที่มา :http://www.doae.go.th

การผลิตเมล็ดพันธุ์หญ้ากินนีสีม่วง



ขั้นตอนการผลิตเมล็ดพันธุ์หญ้ากินนีสีม่วง
การเตรียมเมล็ดพันธุ์
ไม่ควรใช้เมล็ดพันธุ์ที่มีอายุค้างปี
การปลูก
ควรทำการเพาะกล้าในแปลงเพาะก่อน แปลงกล้าขนาด 3ม. * 9ม. ใช้เมล็ดพันธุ์ 150 กรัม รดน้ำเช้าเย็นจะได้ต้นกล้ากินนีสีม่วงพอดีกับพื้นที่ปลูก 1 ไร่ หลังจากต้นกล้างอกแล้วประมาณ 1 เดือน ย้ายลงปลูกในแปลงใหญ่โดยปลูกเป็นหลุมระยะห่าง 70 * 70 เซนติเมตร
การใส่ปุ๋ย
ใส่ปุ๋ยทริปเปิลซุปเปอร์ฟอสเฟส (0 - 45 - 0) ในจำนวน 20 - 25 ก.ก / ไร่ พร้อมกับการเตรียมดินครั้งสุดท้าย และใส่ปุ๋ยยูเรีย 40 - 80 ก.ก / ไร่ โดยแบ่งใส่ 2 ครั้ง ครั้งแรกใส่หลังจากการกำจัดวัชพืช และครั้งที่ 2 จะใส่หลังจากการเก็บเมล็ดครั้งแรกแล้ว
การกำจัดวัชพืช
กำจัดวัชพืชหลังจากย้ายต้นกล้าปลูกไปแล้วประมาณ 1 เดือน
การเก็บเกี่ยวและทำความสะอาด
ทำการเก็บเกี่ยวเมล็ด 2 ครั้ง ครั้งแรกในเดือนสิงหาคม ครั้งที่ 2 ในเดือนตุลาคม ทำการเก็บเมล็ดได้ 2 วิธี

1. วิธีเคาะ
เมื่อสังเกตุว่าหญ้าแทงช่อดอกแล้วมัดช่อดอกรวมกัน ประมาณ 6 - 10 ช่อ หมั่นสังเกตแปลงหลังจากเห็นว่าดอกโผล่พ้นกาบใบแล้วเกินครึ่งแปลง ลองเขย่าช่อดอกเบา ๆ ถ้าเห็นว่าเมล็ดร่วง ก็เริ่มเคาะเมล็ดสู่ภาชนะ เช่น สวิง ผ้ามุ้งไนล่อน ถัง กระด้ง เป็นต้น


2. วิธีเกี่ยว
เมื่อสังเกตุว่าเมล็ดเริ่มแก่ ให้เกี่ยวเอาช่อดอกมา มัดช่อดอกรวมกัน แล้วนำมาบ่มโดยวางช่อดอกหันซ้อนเข้าหากันในร่ม กลับกองบ่มทุกวัน พร้อมทั้งเคาะเมล็ดจากช่อดอก บ่มประมาณ 1 - 2 วัน
ทำความสะอาดเมล็ดโดยการฝัดในกระด้ง เพื่อให้เมล็ดลีบหรือกากหลุดออก แล้วผึ่งเมล็ดในที่ร่ม 2 คืน แล้วตากแดดอีก 2 แดด นำเมล็ดพันธุ์ไปเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น เพื่อรอการจำหน่ายต่อไป
ที่มา : http://www.doae.go.th

วันอังคารที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

กิจกรรมยามว่าง

การบินด้วยพารามอเตอร์

เตรียมเครื่องยนต์ให้พร้อมก่อนบิน







ติดเครื่องยนต์ แล้วกางร่มออก


ดึงร่มขึ้นให้กางเต็มที่แล้วเร่งเครื่อง








ร่มก็จะยกตัวเราและเครื่องลอยขึ้นทันที


บินเล่นบนยอดข้าว





บินเบื่อแล้วก็ลงสู่พื้นอย่างนิ่มนวล



นักปั่นน่องเหล็ก




เตรียมลงแข่งขันสนาม
ม.ราชภัฏสมเด็จเจ้าพระยา